เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม : ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา ก่อนตัดสินใจซื้อ

เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม : ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา ก่อนตัดสินใจซื้อ เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญในภาคการผลิตและการทำงานในโรงงานต่างๆ เนื่องจากสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและรักษาสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ในอุตสาหกรรมมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากเครื่องดูดฝุ่นในบ้านทั่วไป โดยจะต้องมีความทนทานและมีกำลังดูดสูง เพื่อรองรับงานที่มีฝุ่นและเศษวัสดุหนักหรือสารเคมีต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตหรือในพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง การเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับลักษณะงานจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
การตัดสินใจเลือกเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ขนาดของเครื่อง ความสามารถในการดูดฝุ่น การเลือกประเภทของฟิลเตอร์ที่ใช้ในเครื่อง รวมถึงความสะดวกในการใช้งานและบำรุงรักษา ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและความคุ้มค่าในการลงทุน ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม ผู้ใช้ควรทำความเข้าใจในข้อกำหนดและคุณสมบัติต่างๆ ที่เหมาะสมกับลักษณะงานที่ต้องการเพื่อให้ได้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาว
บทความนี้จะช่วยให้คุณได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา ในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม รวมถึงแนะนำเทคนิคในการเลือกเครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ อย่างเหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพคุ้มค่ากับการลงทุน
ปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม
เมื่อพูดถึงการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม สิ่งที่ต้องพิจารณาไม่ได้เพียงแค่ราคาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในระดับอุตสาหกรรมได้จริง เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการรักษาความสะอาดของพื้นที่โรงงาน สถานประกอบการ หรือสถานที่ที่ต้องการการดูดฝุ่นที่มีขนาดใหญ่และปริมาณมาก เพื่อให้การทำงานดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย ดังนั้นการเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในด้านสุขภาพและความปลอดภัยอีกด้วย
ขนาดและความสามารถในการดูดฝุ่น
การเลือกขนาดเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากจะมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและความเหมาะสมในการใช้งานในแต่ละสถานที่ ขนาดของเครื่องดูดฝุ่นสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับความจุและกำลังดูดที่เครื่องสามารถให้ได้ ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการจัดการฝุ่นในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น:
- เครื่องขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็ก หรือสถานที่ที่ต้องการการเคลื่อนย้ายเครื่องที่สะดวก อย่างเช่น ห้องเครื่องจักรเล็ก ๆ หรือพื้นที่ที่มีฝุ่นสะสมในปริมาณไม่มาก
- เครื่องขนาดกลาง: เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีฝุ่นปานกลาง เช่น โรงงานขนาดกลาง หรือสถานที่ที่มีการผลิตและการเคลื่อนย้ายวัสดุต่าง ๆ ที่ต้องการการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
- เครื่องขนาดใหญ่: เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีการสะสมฝุ่นจำนวนมาก เช่น โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่, สถานที่ผลิตสินค้า, หรือพื้นที่ที่มีการผลิตในปริมาณมากและต้องการความสะอาดอย่างรวดเร็ว
ความสามารถในการดูดฝุ่น: เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมที่มีความสามารถในการดูดฝุ่นได้มากจะมีประสิทธิภาพสูงในการเก็บฝุ่นและเศษวัสดุต่าง ๆ ได้ดีในปริมาณมาก โดยทั่วไปจะมีพลังดูดที่สูง พร้อมระบบกรองฝุ่นที่สามารถดักจับฝุ่นละเอียดหรืออนุภาคเล็ก ๆ ได้ ทำให้เหมาะสำหรับสถานที่ที่มีการสะสมฝุ่นหรือเศษวัสดุที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต เช่น โรงงานที่ผลิตวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ที่มีฝุ่นจำนวนมาก
กำลังดูดและพลังดูด
กำลังดูดและพลังดูดเป็นปัจจัยที่สำคัญในการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น เพราะมีผลโดยตรงต่อความสามารถในการทำความสะอาดและความเร็วในการดูดฝุ่นออกจากพื้นที่ที่ต้องการ การเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีกำลังดูดสูงจะช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแบ่งออกเป็นปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้:
- กำลังดูด: กำลังดูด (Suction Power) ของเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมจะวัดจากความสามารถในการดูดฝุ่นจากพื้นผิว เช่น การดูดฝุ่นจากพื้นโรงงานที่มีฝุ่นสะสม การมีกำลังดูดที่สูงจะช่วยให้เครื่องดูดฝุ่นทำงานได้ดีในพื้นที่ที่มีฝุ่นหนาแน่นหรือที่ฝุ่นมีลักษณะหยาบ เช่น ขี้เถ้าจากกระบวนการผลิตหรือเศษวัสดุจากการตัดสินใจ
- พลังดูด: พลังดูด (Airflow) จะวัดจากปริมาณอากาศที่เครื่องดูดฝุ่นสามารถดูดเข้ามาได้ภายในเวลาหนึ่ง โดยเครื่องที่มีพลังดูดสูงจะสามารถดูดฝุ่นออกจากพื้นที่ได้เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นขนาดใหญ่ได้ดี เช่น ฝุ่นละเอียดที่ปกติมักจะลอยอยู่ในอากาศหรือฝุ่นที่ค่อนข้างเบา
การเลือกเครื่องที่มีกำลังดูดและพลังดูดสูงจะทำให้การทำความสะอาดในพื้นที่ที่มีฝุ่นละเอียดหรือฝุ่นหยาบทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เครื่องที่มีกำลังดูดสูงมักจะมีมอเตอร์ที่มีความแรงสูง ซึ่งจะช่วยให้สามารถดูดฝุ่นที่มีขนาดเล็กหรือฝุ่นที่อาจติดอยู่ในซอกมุมต่าง ๆ ได้
- ความสมดุลของขนาดมอเตอร์: ขนาดของมอเตอร์ที่ใช้ในเครื่องดูดฝุ่นต้องมีความสมดุลกับประเภทการใช้งาน หากใช้งานในพื้นที่ที่มีฝุ่นละเอียด เช่น ในโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือฝุ่นผงละเอียดจากการขัดหรือเจียร ต้องเลือกเครื่องที่มีกำลังดูดสูงเพื่อให้สามารถดูดฝุ่นได้ดี ในขณะเดียวกันหากเป็นพื้นที่ที่มีฝุ่นหยาบหรือต้องการดูดเศษวัสดุใหญ่ ๆ เช่น ในโรงงานไม้ หรือสถานที่ที่มีฝุ่นจากการตัดวัสดุ ควรเลือกเครื่องที่มีพลังดูดสูงเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านี้

การกรองฝุ่น
การกรองฝุ่นในเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การทำความสะอาดมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในสถานที่ที่ต้องการการควบคุมฝุ่นอย่างเคร่งครัด เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานที่ที่มีการทำงานที่มีฝุ่นขนาดเล็กและมีอันตรายต่อสุขภาพ การเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีระบบการกรองที่ดีจะช่วยลดการกระจายฝุ่นกลับสู่สภาพแวดล้อมและทำให้พื้นที่ทำงานปลอดภัยขึ้น ดังนี้:
- ตัวกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air):
เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ตัวกรอง HEPA จะช่วยกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งเป็นขนาดของฝุ่นที่สามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ฝุ่นที่เกิดจากการทำงานในอุตสาหกรรมยา หรือโรงงานที่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า การกรองฝุ่นด้วยระบบ HEPA จึงเหมาะกับสถานที่ที่ต้องการการควบคุมฝุ่นที่มีความละเอียดสูง - ตัวกรองหลายชั้น (Multistage Filtration):
การใช้ระบบกรองหลายชั้นในเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นที่หลากหลายขนาด โดยทั่วไปแล้ว ระบบกรองหลายชั้นจะประกอบไปด้วยตัวกรองที่มีความละเอียดต่างกัน เช่น ฟิลเตอร์ที่กรองฝุ่นขนาดใหญ่, ฟิลเตอร์สำหรับฝุ่นขนาดกลาง, และฟิลเตอร์ HEPA หรือ ULPA (Ultra Low Penetration Air) ที่กรองฝุ่นขนาดเล็ก การใช้ระบบกรองหลายชั้นจะช่วยให้การดูดฝุ่นในสถานที่ที่มีฝุ่นชนิดต่าง ๆ ทำได้ดียิ่งขึ้น - การกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ:
การเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีตัวกรองที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้ฝุ่นที่ดูดขึ้นไม่สามารถรั่วไหลกลับออกมาได้ ทำให้พื้นที่ทำงานสะอาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดอัตราการสะสมของฝุ่นในอากาศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพของอากาศในสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการการควบคุมฝุ่นอย่างเข้มงวด เช่น โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ หรือโรงงานเคมี - ความสะอาดของตัวกรอง:
การรักษาความสะอาดของตัวกรองในเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมก็มีความสำคัญไม่น้อย เนื่องจากการใช้งานที่ต่อเนื่องสามารถทำให้ตัวกรองมีฝุ่นสะสมจนลดประสิทธิภาพการกรองลงได้ ดังนั้น การเลือกเครื่องที่มีฟังก์ชันทำความสะอาดตัวกรองอัตโนมัติ หรือสามารถเปลี่ยนตัวกรองได้ง่าย จะช่วยให้การกรองฝุ่นยังคงมีประสิทธิภาพสูงตลอดเวลา
ความทนทานและการบำรุงรักษา
เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมมักจะถูกใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายสูง เช่น โรงงานที่มีฝุ่นหรือเศษวัสดุจำนวนมาก ดังนั้น ความทนทานของเครื่องจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่มีความทนทานและการบำรุงรักษาที่ง่ายจะช่วยให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างยาวนานและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ดังนี้:
- วัสดุที่ใช้ในการผลิต:
เลือกเครื่องดูดฝุ่นที่ทำจากวัสดุที่แข็งแรงและทนทาน เช่น พลาสติกที่มีความแข็งแรงสูงหรือโลหะที่ทนทานต่อการใช้งานหนัก วัสดุเหล่านี้จะช่วยให้เครื่องดูดฝุ่นทนต่อแรงกระแทกและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นและเศษวัสดุต่าง ๆ ซึ่งจะยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหาย - มอเตอร์และชิ้นส่วนสำคัญ:
มอเตอร์เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น จึงควรเลือกเครื่องที่มีมอเตอร์ที่มีคุณภาพสูงและสามารถทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนหรือขัดข้องง่าย ๆ นอกจากนี้ ชิ้นส่วนที่ต้องได้รับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ได้แก่ ถุงเก็บฝุ่น, ระบบกรอง, และท่อดูดฝุ่น ซึ่งควรเลือกวัสดุที่ทนทานและมีการออกแบบที่ง่ายต่อการบำรุงรักษา - การบำรุงรักษาง่าย:
เครื่องดูดฝุ่นที่ดีจะมีการออกแบบให้การบำรุงรักษาทำได้ง่าย เช่น มีระบบที่สามารถทำความสะอาดตัวกรองได้ง่ายหรือมีฟังก์ชันที่ช่วยให้เปลี่ยนชิ้นส่วนได้สะดวก ช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม นอกจากนี้ การเลือกเครื่องที่มีชิ้นส่วนสำรองที่สามารถหาซื้อได้ง่ายในท้องตลาดก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้การบำรุงรักษาทำได้อย่างรวดเร็ว - ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม:
เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมควรทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นหรือเศษวัสดุต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เครื่องที่มีความสามารถในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น โรงงานอุตสาหกรรมที่มีอุณหภูมิสูงหรือมีฝุ่นประเภทพิเศษ จะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้น - การเลือกเครื่องที่มีการรับประกัน:
เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมที่มาพร้อมกับการรับประกันจากผู้ผลิตจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในความทนทานและคุณภาพของเครื่อง โดยเฉพาะเครื่องที่มีการรับประกันระยะยาวหรือมีบริการซ่อมแซมฟรี ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในอนาคต
ความสะดวกในการใช้งานและเคลื่อนย้าย
การออกแบบเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมให้สะดวกสบายในการใช้งานและเคลื่อนย้ายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและลดความยุ่งยากในการใช้งาน เครื่องที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายจะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้รวดเร็วและไม่เสียเวลามากในการตั้งค่าหรือเคลื่อนย้ายเครื่อง ดังนี้:
- การออกแบบล้อและฐาน:
เครื่องดูดฝุ่นที่ดีจะต้องมีล้อที่แข็งแรงและทนทาน ซึ่งช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายเครื่องได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายในพื้นที่ที่มีพื้นผิวเรียบหรือพื้นผิวขรุขระ เช่น โรงงานที่มีการจัดวางเครื่องจักรหลายเครื่องหรือพื้นที่ที่มีอุปสรรคต่าง ๆ การมีล้อที่หมุนได้อย่างอิสระและมีระบบล็อคเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่โดยไม่ตั้งใจจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน - น้ำหนักและขนาด:
ขนาดและน้ำหนักของเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมมีผลต่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย เครื่องที่มีน้ำหนักเบาหรือขนาดกะทัดรัดจะช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้สะดวก ในขณะที่เครื่องที่มีขนาดใหญ่และหนักมักจะเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่กำหนดไว้และอาจจะลำบากในการเคลื่อนย้าย - การออกแบบที่เข้าใจง่าย:
เครื่องดูดฝุ่นที่มีระบบควบคุมที่เข้าใจง่ายและใช้งานได้สะดวกจะช่วยให้พนักงานสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนมากนัก การออกแบบแผงควบคุมที่มีปุ่มที่ชัดเจนและการตั้งค่าอัตโนมัติ เช่น การตั้งความแรงดูดฝุ่นตามประเภทของพื้นที่หรือประเภทของฝุ่น จะทำให้การใช้งานเครื่องสะดวกและไม่ยุ่งยาก - การเข้าถึงจุดต่าง ๆ:
เครื่องที่ออกแบบให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น ท่อดูดฝุ่นที่ยาวพอที่จะเข้าถึงมุมและพื้นที่แคบ ๆ หรือสามารถปรับเปลี่ยนหัวดูดให้เหมาะสมกับประเภทของพื้นที่หรือฝุ่นที่ต้องการดูด จะช่วยให้การทำความสะอาดทำได้สะดวกและรวดเร็ว - ฟังก์ชันการเก็บสายไฟและท่อดูดฝุ่น:
การออกแบบให้เครื่องดูดฝุ่นมีพื้นที่เก็บสายไฟและท่อดูดฝุ่นที่สะดวก จะช่วยลดการพันกันและเพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเครื่องไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลามากในการจัดเก็บหรือเก็บสายไฟให้เป็นระเบียบ - การทำงานแบบไร้สาย:
เครื่องดูดฝุ่นบางรุ่นที่สามารถใช้งานแบบไร้สาย (ใช้แบตเตอรี่) จะช่วยให้ความสะดวกในการใช้งานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้สายไฟได้ เช่น พื้นที่ที่ต้องการการเคลื่อนย้ายเครื่องอย่างรวดเร็ว หรือสถานที่ที่มีการทำงานในพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งจ่ายไฟ
เสียงรบกวน
ความดังของเสียงจากเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะสม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานในพื้นที่ที่มีพนักงานจำนวนมากหรือในสถานที่ที่ต้องการความเงียบสงบ การทำงานในพื้นที่ที่มีเสียงดังมากเกินไปอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการทำงาน หรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานในระยะยาว ดังนี้:
- ผลกระทบต่อสุขภาพ:
การทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังเกินไป เช่น เสียงจากเครื่องดูดฝุ่นที่ดังเกินไปอาจส่งผลต่อการได้ยินของพนักงาน โดยอาจทำให้เกิดปัญหาการสูญเสียการได้ยินหากได้รับเสียงดังในระยะยาว นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดความเครียด ความเหนื่อยล้า และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง - ความสะดวกในการทำงาน:
หากเครื่องดูดฝุ่นมีเสียงดังมากเกินไป จะทำให้พนักงานรู้สึกไม่สะดวกในการทำงานหรือไม่สามารถทำงานที่ต้องการความละเอียดหรือการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การเลือกเครื่องที่มีเสียงรบกวนต่ำจะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้โดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงที่ดังเกินไป - การเลือกเครื่องที่มีเสียงต่ำ:
เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมบางรุ่นได้รับการออกแบบเพื่อให้มีเสียงรบกวนที่ต่ำกว่ารุ่นทั่วไป โดยมีการปรับปรุงเทคโนโลยีการทำงานของมอเตอร์และระบบดูดฝุ่นให้ลดเสียงรบกวนลง การเลือกเครื่องที่มีเสียงรบกวนต่ำจะช่วยให้ทำงานได้อย่างสะดวกและเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งาน - การวัดระดับเสียง (dB):
การตรวจสอบระดับเสียงของเครื่องดูดฝุ่นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเครื่องที่มีเสียงรบกวนต่ำมักจะมีระดับเสียงประมาณ 60-70 เดซิเบล (dB) ซึ่งเป็นระดับเสียงที่สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีพนักงานทำงานจำนวนมาก โดยไม่ทำให้เกิดความรำคาญหรือปัญหาด้านสุขภาพ ในขณะที่เครื่องที่มีเสียงดังอาจมีระดับเสียงมากกว่า 80 เดซิเบล ซึ่งถือว่าค่อนข้างดังและอาจทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ในระยะยาว - เทคโนโลยีลดเสียง:
เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้เทคโนโลยีการลดเสียง เช่น การใช้วัสดุดูดซับเสียงในตัวเครื่องหรือการออกแบบมอเตอร์ให้มีประสิทธิภาพสูงแต่เสียงเบาจะช่วยลดผลกระทบจากเสียงรบกวน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเครื่องที่มีระบบดูดฝุ่นที่ทำงานเงียบมากขึ้นและมีการออกแบบที่ช่วยป้องกันการสะท้อนของเสียง
หากคุณอ่านบทความนี้แล้วมีความสนใจที่จะสั่งซื้อเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรม เครื่องดูดฝุ่น-ดูดน้ำคุณภาพ ติดต่อเราได้ที่ BermudaBKK